โดยครั้งนี้ ซูซูกิได้กลับมาพร้อมกับรถจักรยานยนต์สูตรเพื่อใช้สำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ซึ่งรหัสความแรงในครั้งนี้คือ GSX-RR ด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 1,000 ซีซี ที่นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาบรรจุเพื่อให้เป็นรถจักรยานยนต์ที่แรงและล้ำสมัยที่สุด แต่ละชิ้นส่วนที่สุดยอดถูกนำมาคัดสรรทำให้เป็นรถจักรยานยนต์ที่ทำความเร็วได้มากกว่า 340 กม./ชม. ในเวลาไม่กี่วินาที อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 157 กก. เท่านั้น แต่มีความทนทานเป็นเยี่ยม ซึ่งทำให้สามารถคว้าแชมป์กลับมาครองได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น
ต่อมาในปี 2017 ซูซูกิได้เรียกเสียงฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญากับ 2 นักแข่งใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนักแข่งดาวรุ่งจาก Moto2 อย่าง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 ที่กำลังเป็นที่จับตามอง อีกทั้งยังพัฒนาซูซูกิ GSX-RR ให้ทรงประสิทธิภาพขึ้นไปอีก ซึ่งในปี 2018 นั้น 2 นักแข่งจาก Team Suzuki Ecstar สร้างปรากฏการณ์ ขึ้นโพเดียมถึง 9 ครั้ง จาก 17 สนาม
ซูซูกิยังคงไม่หยุดความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสมรรถนะของ GSX-RR และก้าวขึ้นเป็นจ้าวแห่งสนามแข่งด้วยการเซ็นสัญญานักแข่งดาวรุ่งเข้ามาร่วมทีมอย่าง โจน เมียร์ เจ้าของหมายเลข 36 มาเสริมความแกร่งให้กับ Team Suzuki Ecstar ปี 2019 และเพียง 3 สนามเท่านั้น ซูซูกิ ก็แผลงฤทธิ์ อเล็กซ์ รินส์ ได้ระเบิด ฟอร์มการขับขี่ GSX-RR อย่างร้อนแรงคว้าแชมป์ที่สนาม เรดบูล กรังด์ปรีซ์ ออฟ อเมริกา อีกทั้ง ยังขึ้นโพเดียมในอันดับที่ 2 ในสนามถัดมาที่ Jerez พร้อมทำคะแนนการแข่งขันอยู่ในกลุ่มผู้นำอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดคว้าแชมป์ที่สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ อีกครั้งอย่างเร้าใจแบบสุดมันส์ ทำให้คะแนนรวม ณ ปัจจุบันเป็นอันดับที่ 3 ในขณะนี้
ซึ่งนับว่าเป็นการประสบความสำเร็จไปอีกขั้นแบบก้าวกระโดด จากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี ก็คว้าแชมป์และโพเดียมมาครองอย่างมากมาย และเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ทำให้มีสาวกซูซูกิ และแฟนคลับของ อเล็กซ์ รินส์เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ในปีนี้ยังเหลือ อีก 7 สนาม ซึ่ง 1 ในนั้นคือ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ประเทศไทยนั่นเอง
เรามาดูกันว่า Team Suzuki Ecstar ซึ่งมีนักแข่ง อเล็กซ์ รินส์ หมายเลข 42 และ โจน เมียร์ หมายเลข 36 จะผลงานเป็นอย่างไร ในการลงชิงชัยในสนามต่อไปได้ในวันที่ 15 กันยายน ที่สนาม Misano World Circuit Marco Simoncelli ประเทศอิตาลี และไล่ล่าแชมป์ที่เป็นเป้าหมายของพวกเค้าได้สำเร็จหรือไม่...
No comments:
Post a Comment