สดมภ์ แก้วกาญจนา ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานดีที่สุดในเมเจอร์อย่าง บริติช โอเพ่น ที่เซนต์แอนดรูว์ส โอลด์คอร์ส เข้าพบคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เพื่อขอบคุณที่ให้การสนับสนุนมาตลอดพร้อมรับคำแนะนำก่อนลุยลิฟกอล์ฟ ซีรีส์ 4 รายการที่เหลือของฤดูกาลนี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
สดมภ์ แก้วกาญจนา เปิดเผยหลังเข้าพบคุณสันติว่า “คุณสันติก็แสดงความยินดีและก็ให้กำลังใจ พร้อมกับถามว่าจะไปควอลิฟายสคูลที่ไหน ซึ่งผมก็บอกว่าคงต้องรอปีหน้าเพราะปีนี้ปิดไปหมดแล้ว ซึ่งก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เป้าหมายก็ต้องดูอีกทีว่าจะไปคิวสคูลที่ยุโรปหรือไม่ก็คอร์นเฟอร์รีในอเมริกา ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่บอกว่าจะไปที่ไหนก็ให้บอกมา ท่านพร้อมจะสนับสนุน”
ส่วนแผนในช่วงที่เหลือของปีนี้ นักกอล์ฟหนุ่มจากนราธิวาลเผยว่า “ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปมีโปรแกรมลงเล่นเอเชี่ยนทัวร์ที่ สิงคโปร์ และ เกาหลีใต้ จากนั้นในเดือนกันยายนมีแข่งขันที่อเมริกา 2 รายการเป็นรายการของลิฟกอล์ฟ แล้วกลับมาเล่นเอเชี่ยนทัวร์ที่ไต้หวันอีก 2 รายการ กลับมาไทยช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นลิฟกอล์ฟ เสร็จแล้วบินไปต่อที่ซาอุดิอาระเบีย จะเป็นเอเชี่ยนทัวร์กับลิฟกอล์ฟเป็นหลักครับ” สดมภ์กล่าว
นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากนราธิวาสซึ่งในสมัยเป็นนักกอล์ฟทีมชาติคว้าชัยชนะระดับอินเตอร์เนชั่นแนลให้กับประเทศไทยไม่น้อยกว่า 6 รายการก่อนโดดเด่นสุดๆหลังเทิร์นโปรเมื่อปี 2019 ที่คว้าแชมป์รายการที่มีคะแนนสะสมอันดับโลกเวิลด์แรงกิงมาแล้วถึง 6 รายการ ซึ่งรวมถึงเอเชียนทัวร์รายการสิงคโปร์ โอเพ่น ที่ทำให้เขาได้สิทธิเข้าไปเล่นในเมเจอร์อย่างบริติช โอเพ่น จนสร้างประวัตศาสตร์ในที่สุด โดยผลงานของนักกอล์ฟไทยในบริติช โอเพ่น ที่ดีที่สุดก่อนหน้านี้ ธงชัย ใจดี เคยจบอันดับสิบสามร่วมในการแข่งขันเมื่อปี 2009
สดมภ์ซึ่งเริ่มปีด้วยการมีอันดับโลกอยู่ที่ 223 แต่จากผลงานในบริติช โอเพ่น ทำให้เขาเข้าไปติด 100 อันดับโลกเป็นครั้งแรกในอาชีพ โดยอันดับโลกสัปดาห์ล่าสุดของเขาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 94 นอกจากนั้นเขายังเป็นสมาชิกของลิฟ กอล์ฟ ทัวร์ใหม่ที่สร้างความสั่นสะเทือนวงการกอล์ฟโลกที่นำโดย เกร็ก นอร์แมน อดีตมือหนึ่งโลกจากออสเตรเลีย โดยได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากซาอุดิอาระเบีย
สำหรับโปรแกรมลิฟกอล์ฟ หรือ 54 กอล์ฟ ซึ่งแข่งขันในระบบ 54 หลุมทั้ง 4 รายการที่เหลือในปีนี้ 2-4 ก.ย. แข่งขันที่บอสตัน สหรัฐอเมริกา, 16-18 ก.ย. ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา, 7-9 ต.ค. ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย และ 14-16 ต.ค. ที่เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย ส่วนแมตช์ปิดฤดูกาลที่เล่นแบบประเภททีมจะแข่งขันที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 27-30 ต.ค.ที่จะถึงนี้
No comments:
Post a Comment