หลังจากเปิดตัวออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2004 รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ Rocket III ได้กลายเป็นตำนานด้วยรูปทรงที่โดดเด่น เครื่องยนต์ขนาดยักษ์ และแรงบิดที่ไม่มีใครเทียบได้ ล่าสุดเมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมาไทรอัมพ์ ร็อคเก็ต 3 อาร์ (Rocket 3R) และ ร็อคเก็ต 3 จีที (Rocket 3 GT) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อสืบทอดตำนานแห่งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ โดยทั้ง 2 รุ่น ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ให้ผู้คนทั่วโลกได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน EICMA 2019 ส่วนในประเทศไทยก็ได้รับสิทธิ์เปิดตัวเป็นที่แรกของเอเชียแปซิฟิกในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 ที่จัดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
แน่นอนว่าเมื่อรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วทั้งที ก็ต้องไม่พลาดพาทุกคนไปชม 5 ไฮไลท์รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ ร็อคเก็ต 3 อาร์ (Rocket 3R) และร็อคเก็ต 3 จีที (Rocket 3 GT) ว่ามีอะไรบ้าง ที่ทำให้รถทั้ง 2 รุ่น กลายมาเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์ ที่ต้องมีไว้ในครอบครอง
- เครื่องรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก – ปัจจุบันรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ ร็อคเก็ต 3 อาร์ (Rocket 3R) และ ร็อคเก็ต 3 จีที (Rocket 3 GT) ถือเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ได้รับการผลิตบนสายพานการผลิต โดยมาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง 3 สูบ ขนาด 2,500 ซีซี ส่งกำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ความเร็ว 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 4,000 รอบต่อนาที ตลอดจนให้พลังเสียงท่อ 3 สูบคำรามนุ่มลึกตามแบบฉบับของร็อกเก็ต รถคันนี้ มีอัตราเร่งอันน่าทึ่งโดยสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 2.73 วินาที
- การออกแบบที่มีเอกลักษณ์พร้อมความหรูหราเฉพาะตัว – ด้านรูปลักษณ์ได้รับการออกแบบรายละเอียดที่โดดเด่นสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า LED คู่อันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงตราสัญลักษณ์ไทรอัมพ์รูปสามเหลี่ยม และท่อไอเสียรวม 3 หัวแกะสลัก อีกทั้งที่พักเท้าแบบพับเก็บได้ และล้ออลูมีเนียมหล่อขึ้นรูปแบบ 20 ก้าน มาพร้อมกับความกว้างของยางหลังที่มีขนาด 240 มิลลิเมตร ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ผ่านกระบวนทางวิศวกรรมออกมาอย่างสวยงาม ทำให้ทั้ง 2 รุ่นมีโครงรถ และรูปลักษณ์สุดน่าทึ่ง
- โครงสร้างนวัตกรรมวิศวกรรมยานยนตร์ระดับสูง – รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมน้ำหนักรถที่เบาลงกว่าเดิมถึง 40 กิโลกรัม ด้วยคุณลักษณะพิเศษของโครงรถอะลูมิเนียมใหม่ที่ได้รับการออกแบบภายใต้นวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยให้มีโครงสร้างที่แข็งแรง การกระจายน้ำหนักที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรวมเอาคุณลักษณะเฉพาะขั้นสูงสุดของชิ้นส่วนของระบบเบรกและระบบกันการสั่นสะเทือนสุดพรีเมี่ยมเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าเป็น เบรก Brembo Stylema Monobloc และระบบกันสะเทือนของ Showa แบบปรับได้ เพื่อส่งต่อความสบายในการขับขี่เหนือระดับ รวมไปการควบคุมรถในการเดินทางไกลด้วย
- เทคโนโลยีการขับขี่ระดับชั้นนำที่งมากกว่าเคย – ไทรอัมพ์ ร็อคเก็ต 3 ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติและเทคโนโลยีระดับชั้นนำที่มุ่งเน้นเพื่อผู้ขับขี่ อาทิ ชุดอุปกรณ์หน้าจอแสดงผลแบบ TFT รุ่นที่ 2 และปุ่มควบคุมแบบเรืองแสง ระบบ ABS ในการเข้าโค้ง (Optimised Cornering ABS) พร้อมระบบตรวจจับแรงเฉื่อย (IMU - Inertial Measurement Unit) โหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ ถนน (Road) ฝนตก (Rain) สปอร์ต (Sport) และ การขับขี่ที่กำหนดตามลักษณะของผู้ขับขี่ (Rider configurable) ระบบไฟ LED และไฟหน้า DRL ที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Hold Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบสตาร์ทและล็อคแบบไร้กุญแจ (Keyless ignition and steering Lock) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมด้วย ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) ระบบควบคุมกล้อง GoPro ครั้งแรกของโลก ระบบนำทางแบบ turn- by – turn การใช้งานระบบโทรศัพท์ และการใช้งานระบบเพลงที่สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน My Triumph
- คัสตอมรถจักรยานยนต์ตามสไตล์ผู้ขับขี่ – รถจักรยานยนต์ ร็อคเก็ต 3 อาร์ (Rocket 3R) และ ร็อคเก็ต 3 จีที (Rocket 3 GT) สามารถตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้เข้ากับความต้องการและสไตล์ของผู้ขับขี่ได้ด้วยอุปกรณ์เสริมของแท้จากไทรอัมพ์กว่า 50 รายการ ทั้งชุดใส่สัมภาระ และอุปกรณ์เสริมใหม่ทั้งหมด เพื่อความสะดวกสบายใช้งานได้จริง ที่มาพร้อมสไตล์สวยงาม และความปลอดภัยที่มากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงยังมีชุดแต่ง “Highway” ใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับขี่ทางไกลได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ หรือต้องการข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสาร และกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
No comments:
Post a Comment